วิชา คริสต์ศาสนา

ศาสนานั้นมีพิธีกรรมซึ่งแสดงออกผ่านทางสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายภายนอกเพื่อบ่งบอกถึงผลที่มองไม่เห็นทางจิตวิญญาณนั้น สามารถเข้าใจได้
          ในคริสตศาสนาก็ใช้พิธีกรรมซึ่งไม่เป็นแต่เพียงการร่วมชุมนุมเพื่อสรรเสริญ โมทนา ขอโทษ ขอบพระคุณพระเจ้าเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกที่มีเนื้อหาเฉพาะ สอดคล้องกับชีวิตประจำว้นของมนุษย์ ให้ผู้ร่วมในพิธีกรรมนั้น มีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์แห่งความรอดพ้น(จากความทุกข์ทรมาน) ที่พระเจ้าเองได้ทรงเป็นผู้ริเริ่ม หยิบยื่นให้กับมนุษย์ เพื่อให้พวกเขาหันกลับมาหาพระองค์ โดยอาศัยพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ พระเยซูคริสตเจ้า ลงมารับสภาพมนุษย์และยอมเป็นเครื่องบูชา เพื่อไถ่โทษความผิดของมนุษย์ และทุกคนที่เชื่อและเกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิตเจ้า จะสามารถเข้าสู่อ้อมกอดของพระองค์อย่างมีความสุขชั่วนิรันดร(สภาวะแห่งความรอดพ้นจากความชั่ว - ความทุกข์ -ตลอดไป)
         ดังนั้นการร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ เป็นเวลาพิเศษที่พระเจ้าสร้างความสัมพันธ์และประทานความรอด(สุข)ให้แก่ผู้ที่เชื่อในพระองค์ ให้ได้พบกับพระองค์ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธ์ต่าง ๆ ซึ่งผูกพันกับมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนตาย(เกิด แก่ เจ็บ ตาย)
ี
ความเป็นมา
         แม้ไม่มีคำว่า "พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์" ในพระคัมภีร์ แต่มีเนื้อหาซึ่งแสดงให้เห็นสิ่งที่เรียกกันด้วยชื่อนี้ในเวลาต่อมา พระศาสนจักรในยุคแรกยอมรับและถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
         พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์มีพื้นฐานใน ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ ทั้งในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ ซึ่งแสดงออกด้วยภาษาของมนุษย์และกิจกรรมแบบมนุษย์ เป็นสื่อให้มนุษย์มองเห็นและเข้าใจสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำและคืนสิ่งมนุษย์ได้ละทิ้งไป ให้กลับมาสู่สภาพเดิมได้อีกครั้งหนึ่งและคงอยู่ตลอดไป
         พิธีกรรมทั้งหมดนี้เป็นพิธีกรรมที่เชื่อมอดีีต ปัจจุบันและอนาคตให้มีมติเดียวกัน นั่นคือเป็นความรอดที่นี่ ขณะนี้ ชั่วนิรันดร์
        
         รูปแบบที่เรามองเห็นได้คือองค์พระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงดำเนินชีิวิตให้มนุษย์เห็นตั้งแต่เกิดจนสิ้นพระชนม์ และทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ เสด็จสู่สวรรค์แห่งความสุขนิรันดร์ เพื่อรอคอยมนุษย์ให้เชื่อในพระองค์ เพื่อจะได้พบกับความสุขแบบพระองค์  เป็นภาพที่ทำให้มนุษย์มีความหวังอันสูงสุด เพราะในใจมนุษย์นั้นมีความหวังหนึ่งเดียวคืออยากมีความสุขตลอดไป(พ้นจากความทุกข์ชั่วนิรันดร) เพียงมนุษย์เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นหนทาง ความจริงและชีวิต ตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้ มนุษย์ก็จะพบกับความสุขนิรันดร์(ที่พระองค์ทรงเตรียมไว้) เช่นเดียวกับพระองค์